ep1พี่เมเล่าประสบการณ์โรคประจำตัวของตัวเอง
(ภาพถ่ายพี่เมเองค่ะ ลุงนิลถ่ายให้เมื่อวันที่ 19.07.2565 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่)
UMI พี่เมกินวันละ 2 ซอง กินตอนท้องว่างจะใช้เวลา 3-15 นาทีก่อนที่จะกินยา เช้า 7:00 น.หนึ่งซอง เย็น 17:00 น. หนึ่งซอง เริ่มกินเดือนมีนาคม 2565 หลังจากกินแล้ว 1 เดือนอาการที่สังเกตุได้กับตัวเองคือ อาการเพลีย ไม่มีแรง ค่อยๆดีขึ้น เดิน นั่ง นอน เวลาเปลี่ยนท่าทางอาการวูปลดลง ตอนกลางคืนนอนหลับได้ดีกว่าเดิม
.
จากคนที่แข็งแรง ไม่เคยเข้าโรงพยาบาล จะมีบ้างก็แค่ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ใครจะรู้ว่าจะมี 3 โรคหนักๆได้ ตอนที่เขียนนี้พี่เมอายุ 56 ปี รับรู้ว่าตัวเองมีโรคประจำตัวตอนอายุ 55 ปี ตรวจพบหลังจากฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก แอดมิดที่โรงพยาบาลพร้าว เพราะปวดหัวมาก ตาพล่ามัว ไม่มีแรง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวัคซีนโควิดมั้ย แต่ว่าตั้งแต่ฉีดวัคซีนเข็มแรกต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ก็ตรวจเจอสองโรค คือความดันโลหิตสูง และไตเสี่อมระยะที่ 4 ปลาย เว้นมามกราคม 2565 ฉีดเข็มที่สอง ก็ตรวจเจอโรคที่สามคือไทรอยด์ แล้วหลังจากนั้นร่างกายก็อ่อนแรง ผอมลงอย่างรวดเร็ว จากน้ำหนัก 54 กิโลกรัมไม่เคยลดไม่เคยเพิ่ม ก็เหลือแค่ 42 กิโลกรัม
.
เมื่อรับรู้ว่าป่วยก็ต้องรักษาไว้ตามอาการ อย่างแรกเราต้องยอมรับก่อนว่าเราเป็นผู้ป่วยนะ มีโรคประจำตัวนะ ไม่ได้แข็งแรงเหมือนก่อน ต้องรับรู้ว่าคนป่วยจะทำตัวเหมือนคนไม่ป่วยไม่ได้
.
รักษาตามอาการก็คือ การกินยาตามหมอสั่ง พบหมอตามนัด ก็ทำได้ตามที่หมอกำหนด จนเวลาผ่านไปถึงเดือนมีนาคม 2565 เป็นเดือนที่ต้องผ่านความทรมานร่างกายมากมาย ไหนจะไอ จนหายใจไม่ออกต้องแอดมิดสองครั้ง การแพ้ยาไทรอยด์ ทำให้เกล็ดเลือดต่ำ ตามขา และหลัง มีตุ่มเม็ดเลือดขึ้น หลังจากเปลี่ยนลายไทรอยด์จากเดิม กิน 2 เม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ เหลือ 2 เม็ดหลังอาหารเช้า เติมเลือด เติมน้ำเกลือ ตุ่มเม็ดเลือดค่อยๆจางหายไป แต่ ร่างกายก็ยังไม่มีแรง
.
หลังจากกินยาหลังอาหารแล้ว ร่างกายจะไม่มีแรง เคลื่อนไหวจะมีอาการวูปเหมือนคนจะเป็นลม หน้ามืด ต้องนอนครึ่งวัน บ่ายจะดีขึ้นแต่ก็ไม่มาก ยังคงเพลียไม่มีแรง กินยารักษาตัวมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564 จนถึงเดือนมีนาคม 2564 พบหมอตามนัด ค่าเลือด ค่าไต ไทรอยด์ ความดัน คงที่ไม่ดีขึ้นไม่แย่ลง แต่ก็ยังคงไม่มีแรง
.
เดือนมีนาคม 2564 ลุงนิลเริ่มรับสภาพอาการไม่มีแรง อ่อนเพลีย ไม่ได้อยากให้ร่างกายฟื้นตัว ก็เลยพยายามมองหาอาหารเสริมที่มีความปลอดภัย สามารถกินร่วมกับยารักษาโรคที่เป็นได้ และลุงนิลต้องดูข้อมูลอย่างละเอียดและครบถ้วนจนมั่นใจว่า พี่เมป่วยเป็นโรคไตระยะ 4 ปลายสามารถกินได้
อาหารเสริมที่ลุงนิลซื้อให้พี่เมกินตัวแรกคือ UMI (พี่เมจะอธิบายอีกครั้งว่าคืออะไร)
.
เดือนเมษายน 2565 พบหมอตามนัด ผลเลือดไต คงเดิมค่าไตคงที่ 4.8-4.9 ไทรอยด์คงเดิมกินยาเหมือนเดิม ความดันดีขึ้นยังคงต้องกินยาเหมือนเดิม อาการไอหมอให้ยาแก้ไอ ยาพ่น และยาหอบหืดมาเผื่อเวลาไอแล้วหายใจไม่ออก พี่เมยังคงกินยาตามที่หมอจัดให้ ควบคู่กับการควบคุมอาหารงดเค็ม งดมัน งดรสจัด ลุงนิลทำอาหารให้กินเอง และกิน UMI วันละสองซอง
.
เดือนเมษายน 2565 ลุงนิลหาข้อมูลอาหารเสริมตัวที่สอง ให้พี่เมกินเพิ่ม คือ HRT (พี่เมจะอธิบายอีกครั้งว่าคืออะไร)
วิธีกิน UMI และ HRT สำหรับพี่เม ผู้ป่วยโรคไตระยะ 4 ตอนปลาย เวลากินดีที่สุดคือต้องกินตอนท้องว่าง และเว้นระยะไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะกินยาหรืออาหาร
เช้า 7:00 น. UMI 1 ซอง เว้น 15 นาทีก่อนที่จะกินยาก่อนอาหารเช้า
เที่ยง 12:00 น. HRT 1 ซอง เว้น 15 นาทีก่อนที่จะกินยาก่อนอาหารกลางวัน
เที่ยง 12:00 น. HRT 1 ซอง เว้น 15 นาทีก่อนที่จะกินยาก่อนอาหารกลางวัน
เย็น 17:00 น. UMI 1 ซอง เว้น 15 นาทีก่อนที่จะกินยาก่อนอาหารเย็น
.
กินต่อเนื่อง 3 เดือน เมษายน 2565 - กรกฎาคม 2565 ร่างกายที่เพลีย อ่อนแรง ดีขึ้น อาการมึนงงตอนเปลี่ยนจากท่านั่ง เป็นยืน เป็นนอน แล้ววูปหน้ามึดเหมือนจะเป็นลด หายไป ลุงนิลซื้อที่วัดความดันตรวจวัดความดันไม่สูงอยู่ในเกณฑ์ปกติ กลางคืนนอนหลับได้ยาวขึ้น
.
วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 พบหมอตามนัดทุกสามเดือน ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ผลการตรวจเลือด
1. ค่าเลือดไตดีขึ้น จาก 4.9 เหลือ 4.2
2. ค่าเลือดไทรอยด์ มีแนวโน้มดีขึ้น หมอสั่งลดยาไทรอยด์จาก 2 เม็ด เหลือ 1 เม็ดหลังอาหารเช้า
3. ความดันสูงดีขึ้น หมอสั่งลดยาความดันจากวันละ 4 เม็ด เหลือ 3 เม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ งดก่อนนอน
ได้รับข่าวดีหลังจากที่ต้องวกวนอยู่กับโรคร้ายมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564 - กรกฎาคม 2565 นับว่าเป็นข่าวดีมากๆ ที่ร่างกายดีขึ้นกว่าเดิม ลุงนิลดีใจมากที่ร่างกายมีแนวโน้มดีขึ้น
อ่านต่อ ep3 ค่ะ
ติดต่อพี่เมเพื่อสั่งซื้ออาหารเสริม UMI และ HRT ได้ที่
Line ID : Mathinee.p
Tel . 089-244-7220 / 092-354-0092
ติดตามพี่เมได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น