6/18/2566

เสื้อโครเชต์ ถักจากคอแยกสี่มุม

Cr. ครูสินี (Sinee) โพสไว้ที่เฟสบุ๊ค  ลายสวยดี พี่เมแชร์มา
ผังลายนี้เห็นผังมานานมากแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเข็มถัก  เก็บข้อมูลไว้ที่นี่ก่อน รอวันลงเข็ม

Note 
เริ่ม 110 ห่วง , 100 ห่วง
ไหมที่ถักสวย
เส้นขนาด 18  หัวเข็ม 1.3 mm.  ถักสบาย
เส้นขนาด 16 หัวเข็ม 1.0 mm.,0.95 mm.  งานเนียบๆ และพลิ้วสวย 

6/17/2566

เมื่อลุงนิลป่วย อโรคยา ปรมาลาภา เมื่อป่วยก็ให้ป่วยเฉพาะร่างกาย ใจเราต้องไม่ป่วย

พี่เมเล่าอาการของลุงนิลตั้งแต่ต้นเป็นวิทยาทานค่ะ (มีเพื่อนเราขอมาจะได้สังเกตุตัวเองเพราะมะเร็งเป็นสิ่งใกล้ตัว)

สองเฒ่าสู้มะเร็งไปด้วยกันค่ะ
.
ลุงนิลจะเป็นคนที่ถ่ายบ่อย ท้องเสีย สลับกับท้องผูก ธาตุเบา กินอะไรผิดปกติก็จะถ่าย เป็นแบบนี้มานานมากแล้วค่ะ เราก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร กินข้าวได้ อ้วนท้วนสมบูรณ์ดี
.
ปลายปี 2564 เราสองเฒ่าร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีทั้งคู่ มีป่วยก็ตามประสาตามสังขารที่ควรเป็น ปวดหัว เวียนหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เป็นหวัด เหมือนคนทั่วไป ไม่มีอะไรแรงกว่านี้ พี่เมเกษียณก่อนวัยค่ะเลิกทำงานประจำตอนอายุ 49 ลุงนิลแก่กว่าพี่เม 1 ปี เราพากันมาอยู่ อ.พร้าว เพราะลุงนิลถูกจริต เป็นเมืองพระอริย์สงฆ์ อากาศดี สภาพแวดล้อมสะอาดดี
.
เราสองเฒ่า ฉีดวัคซีนโควิด เข็มแรกพี่เมน๊อค ได้มาสองโรค ความดันสูงและไตวายเฉียบพลันสี่ปลายๆ ลุงนิลยังไม่มีอาการ
.
ผ่านไปหนึ่งเดือนครบเวลา ฉีดกระตุ้นเข็มที่สอง พี่เมนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน ได้มาอีกโรค ไทรอยด์เป็นพิษแบบเฉียบพลันและแพ้ยาไทรอยด์ รักษากันยาวๆ ลุงนิลดูแล
.
ลุงนิลเริ่มมีอาการผิดปกติ ถ่ายบ่อยมากในหนึ่งวัน ถ่ายไม่สุด ปวดถ่ายกระปิดกระปรอย เฝ้าพี่เมไฟก็เวียนเข้าห้องน้ำไป น้ำหนักยังไม่ลดแต่ถ่ายบ่อย ไม่เบื่ออาหาร
ลุงนิลเป็นแบบนี้เรื่อยๆมา ไปหาหมอทั้งที่โรงพยาบาลพร้าว ส่งตัวไปนครพิงค์เชียงใหม่
.
นครพิงค์ ตรวจเบื้องต้นอาการลุงเหมือนเป็นริดสีดวงภายใน ทำให้ถ่ายบ่อยถ่ายไม่สุด ให้ยาระบายมาเพื่อให้ถ่ายท้องแล้วขับรถไปส่องกล้อง นอนโรงพยาบาลมีเวลาให้ญาติเยี่ยมไม่ให้เฝ้า
.
ลุงนิลไม่ไปนครพิงค์ รอเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมมาเทพปัญญาเดือนมีนาคม 66
.
ลุงนิลรู้ตัวเองว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ นครพิงค์นัดส่องกล้องแล้วไม่ได้ไปเพราะ อาการเริ่มหนักขึ้น ถ่ายวันละ20 ครั้งขึ้นไป ถ่ายไม่สุด อึเปลี่ยนจากปกติ อึลีบแบน ขนาดเท่านิ้วชี้ ถ่ายแต่ละครั้งทรมาน ถ่ายไม่สุด ท้องอืดสลับกับท้องเสีย
ตั้งแต่กลางปี 65 ถึงปี 66 น้ำหนักลุงลดหายไปเกือบ 20 กิโลกรัม ลุงผอม กินอะไรเข้าไปไม่ถึง 10 นาทีถ่ายออกหมด ถ่ายไม่สุด และเริ่มถ่ายมีเลือดปน
.
ลุงนิลเปลี่ยนประกันสังคม เป็นเทพปัญญา แล้วเข้ารักษา
.
เดือนพ.ค.2566 แอดมิด(14วัน)
ส่องกล้อง 19-5-2566 พบก้อนเนื้อห่างจากปลายทวารประมาณ 5 cm. คุณหมอตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ แจ้งคร่าวๆว่าอาจเป็นเนื้อร้าย คุณหมอคุยรายละเอียดการผ่าตัด ให้เลือกว่าจะถ่ายหน้าท้องตลอดหรือจะย้ายไส้กลับ ถ้าย้ายไส้กละบจะต้องเสียส่วนต่าง 70,000 นอกเหนือจากประกันสังคม เพราะต้องใช้เครื่องมือพิเศษช่วยพักไส้ และย้ายกลับเนื่องจากเรื้อร้ายอยู่ใกล้รูทวาร ลุงนิลต้องการย้ายกลับ
.
20-5-2566 เข้าอุโมงตรวจการกระจายของเนื้อร้าย ไม่พบการกระจายไปอวัยวะอื่น รอผลตรวจชิ้นเนื้อ รอคิวผ่าตัด
.
26-5-2566 ลุงนิลผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก ก้อนใหญ่มากเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 cm.ประมาณลูกเทนนิส คุณหมอส่งก้อนเนื้อตรวจ ลุงนิลพักฟื้นที่ รพ. ขับถ่ายทางหน้าท้อง
.
กลับมาพักฟื้นที่บ้าน แผลผ่าตัดของลุงนิลไม่ผิดปกติ แผลที่ก้นมีเจ็บบ้าง พบคุณหมอทุกๆ 5 วันเพื่อตรวจแผล
.
12-6-2566 พบคุณหมอมะเร็ง ฟังผลก้อนเนื้อ คุณหมอแจ้งว่าลุงนิลเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่2ปลายเกือบเข้า 3 ลักษณะก้อนเนื้อที่ส่งตรวจบวมเป่งใกล้แตก ดีที่ยังไม่แตกเพราะถ้าแตกเชื้อจะกระจายไปทั่ว
.
ลุงนิลเริ่มรับข้อมูลการรักษามะเร็ง คุณหมอบอกจัดเต็มครึ่งปีต่อเนื่อง
ต้องฉายแสง 25 ครั้ง สัปดาห์ละครั้ง
ฉายแสงครบ ครีโม 9 เข็ม
.
วันที่ 17-6-2566 นี้พบคุณหมอเพื่อวางแผนฉายแสง ครั้งแรกเริ่มปลายเดือนนี้
.
สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ ต้องบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง เนื้อ นม ไข่ คุณหมอให้เน้นโปรตีน เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว
.
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ลุงนิลเพิ่งผ่านประตูแรกคือตัดก้อนเนื้อออก ถ่ายทางหน้าท้อง รอแผลหายย้ายไส้คืน
ขั้นตอนการรักษามะเร็ง ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย
.
สภาพจิตใจของลุงนิลเข้มแข็ง สวนทางกับสภาพร่างกาย
ลุงนิลพูดเสมอว่ามันเป็นกรรม เราทำอะไรไว้เราก็ต้องยอมรับและชดใช้รักษามันไป
เรียนรู้ ปรับตัว อยู่กับมันให้ได้
มันอยู่ในร่างกายเราแล้ว เราต้องรับให้ได้
.
สู้ต่อไปค่ะ
.
อาการของพี่เม
ไทรอยด์เป็นพิษเฉียบพลัน ..หายแล้ว
ความดันสูง ..ควบคุมได้ กินยาตามคุณหมอสั่ง
ไต ...เฝ้าระวังค่าไตปรับดีขึ้นจากสี่ปลายๆเป็นสี่ต้นๆเกือบสามปลาย บางครั้งก็มาเป็นสามกลาง แนวโน้มดีขึ้น ให้ระวังอาหารรสจัด
น้ำหนักเริ่มเพิ่มขึ้นจากการตรวจครั้งสุดท้ายเพิ่มขึ้น 5 กิโล แนวโน้มดีขึ้น
.
9:06 13-6-2566

.....
เล่าด้วยภาพ เรียงลำดับเริ่มตั้งแต่ลุงนิลเข้าโรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
1.คุณหมอเจ้าของไข้  (หมอส่องกล้อง)
   นพ.อิสริยพงค โกฎิกุล  ว.42280
2.คุณหมอผ่าตัด
   นพ.นิเวศน์  สิทธิจิรกร
3.คุณหมอมะเร็ง
   นพ.ปณิธาน  คงสุภาพศิริ ONCO


19-5-2566 
ใช้สิทธิ ม.39 ประกันตัวเองในการเข้ารักษา
แอดมิดที่ห้อง  418 นอนคืนที่ 1 พรุ่งนี้ส่องกล้อง ลุงนิลต้องถ่ายของเสียออกให้หมดไส้
น้ำแดงที่เห็นคือ ยาระบาย สองลิตร
ลุงนิลเลือกห้องพิเศษ คืนละ 800 บาท (ต้องจ่ายเอง) ถ้าอยู่ห้องรวมไม่ต้องจ่ายอยู่ในค่าใช้จ่ายประกันสังคม แต่ลุงนิลถ่ายบ่อย  กินแล้วต้องถ่ายเลย  เวลาถ่ายก็แก้ผ้าหมด
เราสองคนเลือกห้องพิเศษ ลุงนิลจะได้สบายตัว

กินยาระบายแล้ว รอเข้าห้องน้ำถ่ายออก ลุงนิลถ่ายเป็นเลือด ถ่ายลีบๆ ถ่ายไม่สุด คุณหมอนัดมาส่องกล้อง

20-5-2566  ส่องกล้องครั้งแรกในชีวิต
คุณหมอให้อมยาพ่น 10 วินาที แล้วลุงนิลก็หลับไป  หายไปที่ห้องผ่าตัดเพื่อให้คุณหมอส่องกล้องลำไส้ ส่องทั้งด้านบนและด้านล่าง
ผลคือ อย่างที่ลุงนิลคาดไว้  พบก้อนเนื้อเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 cm. อยู่ห่างจากปลายทวารประมาณ 5 cm. คุณหมอตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ  สันนิษฐานว่าเป็นมะเร็ง ส่วนเป็นขั้นที่เท่าไหร่ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
เราสองคนก็ไม่ได้ตกใจอะไร  เพราะลุงนิลทำใจรับได้ว่าต้องเป็นมะเร็งแน่นอน

22-05-2566  เข้าอุโมง
เช้าต้องกินยาทึบแสงผสมน้ำ ก่อนเข้าอุโมง เพื่อดูการกระจายตัวของมะเร็ง ว่ากระจายไปที่ส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่
ไม่พบการกระจายไปส่วนอื่น  คุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็งขั้นที่ 1 แต่ขนาดมันใหญ่นะเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 cm. จะต้องผ่าก้อนเนื้อแล้วส่งตรวจ  ช่วงที่รอผ่าตัดนี้กินได้แต่อาหารเหลว เตรียมร่างกายเพื่อผ่าตัดวันที่ 26-5-2566
ตอนแรกคุณหมอจะให้กลับบ้าน แล้วมาใหม่วันที่ผ่าตัด  ลุงนิลไม่ไหว เพลียไม่มีแรง นอนรอวันผ่าตัดที๋โรงพยาบาล กินอาหารเหลวไปก็แล้วกัน  ดีกว่าเดินทางกลับ ก็ต้องเดินทางมาอีกอยู่ดี

22-5-2566 
หลังจากเข้าอุโมงฉายแสง
เช้านี้ลุงนิลหิว กินโจ๊กหมูใส่เห็ดหอม จะได้พอมีแรง เพราะไม่ได้กินอะไรมาสองวัน

23-6-2566
คุณหมอมาแจ้งวันที่จะผ่าตัดเอาก้อนเนื้อที่ปลายทวารออก ประมาณ 26-5-2566 ลุงนิลเลือกเก็บปลายทวารไว้ เราสองคนต้องหาเงินจ่ายส่วนต่างเครื่องมือพิเศษในการผ่าตัด 70,000 อยู่นอกเหนือจากประกัน ม.39
ไม่ต้องกังวนนะลุงนิล เงินเก็บเราสองคนก็ยังพอมี
24-6-2566
คุณหมอให้งดอาหาร ทานได้แต่อาหารเหลว โรงพยาบาลเสริฟน้ำข้าว ลุงนิลจะมีแรงได้อย่างไง
พี่เมหาอาหารเสริม เอ็นชัวร์ ชงให้ลุงนิลทานจะได้มีแรง เพื่อรอผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก
ด้วยความเครียดสะสม ความน้อยเนื้อต่ำใจ สุดจะกลั้น อยู่ด้วยกันมา 33 ปี ไม่เคยเห็นลุงนิลร้องไห้ วันนี้ลุงนิลน้ำตาคลอ สะอื้นไห้ เราเข้าใจนะ อยากร้องก็ร้องเลยลุงจะได้โล่งๆ 
ปลอบกันเองสองคน แล้วก็พากันร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่ เราสองเฒ่ามีกันอยู่แค่สองคน เราต้องสู้ไปด้วยกัน เข้มแข็งไว้เนอะลุงริล

ร้องไห้โล่งแล้วลุงนิลก็ยืนนิ่งๆดูวิว คงจะกำลังใช้ความคิดอยู่ ไม่อยากกวน เราก็เลยปล่อยให้อยู่นิ่งๆ
ยืนเมื่อย ก็นั่งดูวิว ใช้ความคิด
ความทรมานคือการรอคอย ลุงนิลทานได้แต่อาหารเหลวจนกว่าจะผ่าตัด
ความเครียดมีวนเวียนอยู่รอบตัว ก็ได้แต่ปลอบกันเองสองคนเรา


นั่งๆนอนๆ ไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรง นอนพักเถอะนะลุงนิลอีกหลายวัน

25-6-2566 ก่อนวันผ่าตัด
มื้อเช้า มื้อกลางวัน กินอาหารเหลวเพื่อให้มีแรง เอ็นชัวร์ช่วยให้ลุงมีแรง
ลุงนิลเป็นคนที่กินข้าวอร่อยนะ เห็นกินได้แค่อาหารเหลว สงสารจับใจ
อดทนไว้นะลุงนิล  ผ่าตัดแล้วจะได้ไม่เจ็บไม่ปวดไม่ทรมาน


มื้อเย็น คุณหมอสั่งงดอาหาร เตรียมตัวผ่าตัดพรุ่งนี้เช้า
ให้ลุงนิลกินยาระบาย เพื่อให้อาหารที่ค้างในไส้ออกมาให้หมด
เช้า 26-5-2566 เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาลสวนทวารด้วยน้ำเปล่า เพื่อให้อาหารเก่าออกมาให้มากที่สุด

26-5-2566 วันผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต
ลุงนิลตื่นแต่เช้า เราถามว่าพร้อมมั้ยลุง นี่คือคำตอบ  ร่างกายไม่ค่อยจะมีแรงแล้ว แต่ใจสู้มากนะ

ขอนั่งสมาธิ ทำใจให้พร้อมสักนิดนะ ช่วงที่รอเจ้าหน้าที่มารับไปห้องผ่าตัดชั้น 2  นั่งประมาณ 1 ชั่วโมง ลุงนิลบอกว่าใจจะได้สงบ
เปลี่ยนชุดพร้อมที่จะเข้าห้องผ่าตัด

และแล้วก็ถึงเวลา ประมาณ 9:00 น. วันที่ 26-05-2566 เจ้าหน้าที่มารับลุงนิลไปห้องผ่าตัด ลุงนิลหันมาบอกเดี๋ยวเจอกันนะเม อย่าลืมกินข้าว
คุณหมอบอกว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงในการผ่าตัดและรอคนไข้ฟื้นจากยาสลบ และต้องพักที่ห้อง ไอซียู เพื่อเฝ้าดูอาหาร 1 คืน ก่อนที่จะย้ายมาพักฟื้นที่ห้องพัก
เป็นเช้าที่เราโหวงๆ  กินข้าวเช้าไม่ซื้อขึ้นมากินเหมือนทุกวัน  นั่งกินที่ร้านค้า
กินข้าวไปน้ำตาก็ไหลออกมา  กินมันไปทั้งน้ำตาละกัน  สงสารลุงนิล

เจ้าหน้าที่ พาลุงนิลไปห้องผ่าตัด ยังยกสองนิ้วให้ เดี๋ยวเจอกันนะเม

กินข้าวไม่ลงอยู่ไหนก็ไม่เป็นสุข  นั่งรอลุงนิลหน้าห้องผ่าตัด หายเข้ามาห้องผ่าตัดตั้งแต่ 9 โมงเช้า

เกือบบ่ายสองโมง ลุงนิลออกจากห้องผ่าตัด ไม่ต้องพักห้องไอซียู กลับมาห้องพักท่านี้เลย มาพร้อมกับสายระโยงระยาง
สายที่จมูก
สายน้ำเกลือ
สายฉี่
สายที่แผลผ่าตัดระบายเลือด

ยังเมายาสลบและมอร์ฟีนอยู่ เจ็บหนอ ปวดหนอ เจ๋บมากเลยเม 
กี่โมงแล้วเม ... เกือบบ่ายสองแล้ว
โห....
นอนเถอะลุง นอนนิ่งๆอย่าขยับเดี๋ยวเจ็บแผล เอาอะไรก็บอกนะ
อืม....

ผ่านไปสองชั่วโมง เริ่มปวดแผล พยาบาลให้ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ
งดน้ำ งดอาหาร ก่อนนะลุงนิล
30-5-2566
31-5-2566
1-7-2566
2-7-2566

04-06-2566
07-06-2566
10-06-2566

12-6-2566
14-6-2566
17-6-2566


22-6-2566
บ่ายสามโมง คุณหมอมะเร็งนัดลุงนิล ที่ โรงพยาบาลเทพปัญญา เมือง เชียงใหม่
.
เพื่อ x-ray และทำพื้นที่จำลองฉายแสง ครั้งที่แล้วลุงนิลไม่ผ่าน เพราะลำไส้ส่วนบน มีสารทึบแสงตกค้างจากการดื่มสารทึบแสงเข้าอุโมงก่อนผ่าตัดตั้งแต่ 21-6 ที่ผ่านมา 
.
ชีวิตคือการเดินทาง
สู้กันต่อไปสองเฒ่า
.
ภาพหลังบ้านพี่เม เห็นม่อนล้านชัดมากวันที่ฟ้าเปิด ฟ้าเมืองป้าวงามตา

#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า
7:19  22-6-2566

สองเฒ่าสู้กับโรคร้าย
ลุงนิลใจพร้อมค่ะ
ที่เก่าเวลาใหม่ โรงพยาบาลเทพปัญญา แยกฟ้าฮ่าม อ.เมือง เชียงใหม่
.
ลุงนิลพบหมอตามใบนัด x-ray แล้ว รอพบหมอ 16:00 เพื่อจำลองพื้นที่ฉายแสงและกำหนดวันเริ่มฉายแสง
.
#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า
#ลถงนิลพี่เม
14:54  22-6-2566
นั่งรอหมอจนง่วงของีบแวป
คนป่วยมะเร็งนั่งรอพบหมอตามนัดเยอะมาก
ผลออกมาไม่ผ่านค่ะ ยังมีสารทึบแสงค้างอยู่ที่ไส้ด้านบน ทำให้สแกนเพื่อหาจุดฉายแสงไม่ได้
.
หมอมะเร็ง ส่งลุงนิลกลับมาหาหมอทางเดินอาหาร เพื่อทราบวิธีเคลียร์ลำไส้จากสารทึบแสงที่ตกค้าง
.
ลุงนิล รอพบหมอทางเดินอาหาร เพื่อทราบวิธีกำจัดสารทึบแสงที่ไส้ตอนบน
ใจสู้ค่ะ
.
วันนี้ไม่ได้สแกนเพื่อจำลองพื้นที่ฉายแสง หมอนัดอีกครั้งสัปดาห์หน้า วันที่ 29-6-2566
.
สู้ต่อไปเนอะลุงนิล
17:35  22-6-2566
ลุงนิล ผ่านคุณหมอทางเดินอาหาร
สรุป สารทึบแสงก็ยังคงค้างอยู่ในไส้ลุงนิล แต่เป็นที่ไส้ใหญ่ มันคนละส่วนกัน ยาระบายที่กินก็ล้างได้ที่ลำไส้เล็ก ไม่มีอะไรขับออก
เพราะ
ตอนนี้คุณหมอยกไส้เล็กออกมาที่หน้าท้องให้ลุงนิลขับถ่าย ไม่ได้ขับถ่ายทางทวารเดิม คุณหมอตัดตอนไส้ใหญ่ไม่มีเศษอาหารลงไป เพื่อรักษาแผลที่ปลายทวาร สารทึบแสงจึงคงค้างอยู่ จนกว่าจะขับถ่ายทางทวาร
.
ถ้าต้องให้สารทึบแสงหมดไปจากไส้ใหญ่ต้องส่องกล้อง แล้วล้างออก
.
เดินหน้าพบหมอมะเร็งต่อ อย่างไงล่ะน้อทีนี้  ที่เรามาสองครั้งที่ฟาว เราก็บอกหมอแล้วว่าถ่ายหน้าท้องยกไส้ 
,... อย่างไงล่ะน้อทีนี้น่ะ
#สู้ต่อไปลุงนิล
16:20 26-6-2566

รอลุงนิลคุยกับคุณหมอทางเดินอาหารค่ะ
เดินหน้าต่อ ไปหาหมอมะเร็งที่อาคารใหม่
คนป่วยนั่งรอเยอะมาก
17:00 หิวข้าวแล้วล่ะเม อยากกินโจ้ก
อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวเราไปกินโจ้กกัน
เรียบร้อย
หมอมะเร็งบอกว่าเคสของลุงเป็นเคสแรกที่เทพปัญญา
หมอจะส่งเมลล์ไปต่างประเทศเพื่อหาข้อมูลเซทค่าหลอกเครื่องว่าตรงสารทึบแสงไม่ใช่ไส้จึงจะฉายแสงได้
ถ้าสัปดาห์นี้ทางพยาบาลโทรหา วันเสาร์ที่จะถึงนี้ จะต้องมาจำลองพื้นที่ฉายแสง
ถ้าไม่โทรก็เป็นสัปดาห์ถัดไป จะโทรแจ้งมาฉายแสงครั้งแรก
....กลับบ้านเราก่อนเนอะ

ล้อหมุนเร่งด่วน 12:15 จากอ.พร้าว ปลายทาง โรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมือง เชียงใหม่ ...ห้องฉายแสงโทรมาให้ลุงนิล ไปจำลองพื้นที่ฉายแสง...
.
ไม่ได้โทรนัดล่วงหน้า เราก็รอไม่มี คิดว่าไม่มีแล้วจำลองพื้นที่
วันนี้โทรมานัด 14:30 ไม่งั้นก็ต้องเลื่อนไปเสาร์หน้า.....
.
สองเฒ่าเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วล้อหมุนเลย 1.30 ชม. กับระยะทาง 102 กม.
ไปกันเลยลุงนิล ลุย....

#ลุงนิลพี่เม
#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า 
12:22  01-07-2566

ล้อหมุนเร่งด่วน 12:15 จากอ.พร้าว ปลายทาง โรงพยาบาลเทพปัญญา อ.เมือง เชียงใหม่ ...ห้องฉายแสงโทรมาให้ลุงนิล ไปจำลองพื้นที่ฉายแสง...
.
ไม่ได้โทรนัดล่วงหน้า เราก็รอไม่มี คิดว่าไม่มีแล้วจำลองพื้นที่
วันนี้โทรมานัด 14:30 ไม่งั้นก็ต้องเลื่อนไปเสาร์หน้า.....
.
สองเฒ่าเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วล้อหมุนเลย 1.30 ชม. กับระยะทาง 102 กม.
ไปกันเลยลุงนิล ลุย....

#ลุงนิลพี่เม
#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า 
12:22  01-07-2566
ลุงนิลมีรถประจำตำแหน่งด้วยน่ะ
วัดความดัน ชั่งนน.47.9 กก.เบาหวิวเลยลุงนิล
ลงลิฟท์จากชั้น 3 มาชั้น 1 หน้าห้องฉายแสง ดื่มน้ำแล้ว1 ขวด รอสิบนาที
เพื่อเข้าห้อง #จำลองพื้นที่ฉายแสง
ลุงนิลสู้ๆ
#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า
#ลุงนิลพี่เม
14:34  01-7-2566


เจาะเลือดแล้ว นั่งรอผลเลือดก่อนพบหมอ
รอผลเลือดสองชั่วโมงยิ่งรอยิ่งง่วง ลุงนิลเดินส่ิงขนม ท่าทางจะหิวละ
พบหมอเรียบร้อย
หมอทักว่าผอมไปพี่ต้องบำรุงให้แข็งแรง กินไข่ขาวให้ได้วันละ 6 ฟอง เป็นดปรตีนที่มีประโยชน์และหาได้ง่าย
หมอสั่งวิตามินให้ไปทานเพื่อให้ทานข้าวได้ พี่ต้องบำรุงให้อ้วนเพราะถ้าฉายแสงพี่จะผอมลงอีก
สู้ๆนะลุงนิลเราจะสู้ไปด้วยกันเนอะ
สองเฒ่า รอโทรศัพท์จากตึกฉายแสง ตั้งแต่วันจันทร์ ...และแล้ว 18:45 น.เจ้าหน้าที่ตึกฉายแสงก็โทรมาแจ้งวันที่ลุงนิลจะเริ่มฉายแสงวันแรก
วันจันทร์ที่ 10-7-2566 เวลานัด บ่าย 14:30 น.ที่ตึกฉายแสง ตึกใหม่โรงพยาบาลเทพปัญญา
.
รอกันมาหลายวัน โล่งไปหนึ่ง เมื่อวาน 05-07-2566 ลุงนิลได้วิตามินบำรุงร่างกายมาจากคุณหมอผ่าตัด 2 ยี่ห้อ กินหลังอาหาร 3 มื้อ วันนี้กินข้าวได้เยอะขึ้น หิวบ่อย ลุงนิลบอกว่าวิตามินน่าจะช่วยให้หิวข้าวแหละ
.
บำรุงเยอะๆลุงนิล
วันจันทร์จะได้ฉายแสงแล้ว
ลุงนิลสู้ๆ
#บันทึกไว้ผ่านกาลเวลาสองเฒ่า
#ลุงนิลพี่เม
06-07-2566 19:10 น.